วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ออกภาคสนามรวบรวมแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ และนิทรรศการ

วันที่  27  พฤศจิกายน  2555

ชื่อกลุ่ม  Learning
สมาชิก
     1. นายจักรกฤษณ์  จรวารี                  53040469
     2. นางสาวกรกนก  แสนแก้วทอง       
53040875
     3. นางสาวทัศนีย์   เพชรกลั่นพะเนา   
53040885 
     4. นางสาวพิมพ์ชนก แตงน้อย           
53040895 
     5. นายอรรถพร       บุ้นกี้                   
53040909
     6. นายธำมรงค์       ใจสมัครรัก          
53041244
     คณะศึกษาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีการศึกษา

แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้  ที่ศึกษา 2 แหล่ง  คือ
1. เกาะลอย   จัดเป็นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่เป็นสถานที่
2. การทำขนมลูกชุบ นางอังคณีย์ เสวยศรี  จัดเป็นแหล่งการเรียนรู้ประเภทบุคคล

การนำเสนอ
       - เกาะลอย ใช้การนำเสนอเป็นในรูปแบบของรายการวีดิทัศน์นำชมและเรียนรู้สถานที่
       - การทำขนมลูกชุบ นางอังคณีย์ เสวยศรี   ใช้การนำเสนอผ่านสื่อ CAI

วางแผนในครั้งต่อไป
     *  รวบรวม/สืบค้นข้อมูล เกาะลอย/การทำขนมลูกชุบ นางอังคณีย์ เสวยศรี 
     *  วางแผนการดำเนินงาน
     *  แบ่งหน้าที่สมาชิกในกลุ่ม

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล และ หอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออก

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล



















สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นศูนย์การเรียนรู้โลกใต้ทะเล มีการแบ่งส่วนในการจัดแสดงเป็นตู้ปลาขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่หลายขนาดและมีข้อมูลของสัตว์น้ำแต่ละชนิดที่จัดแสดงเป็นส่วนๆให้ความรู้เข้าใจง่ายพร้อมภาพประกอบ และผู้เข้าชมมีโอกาสได้เห็นสิ่งมีชีวิตแต่และชนิดที่เป็นของจริงภายในตู้ปลา พร้อมมีวิทยากรให้คำแนะนำและความรู้ที่น่าสนใจ แปลกใหม่ อยู่ตลอดเวลา ทำให้การเข้าชมมีความสนุกสนาน น่าสนใจไม่น่าเบื่อ นอกจะได้ศึกษาหาความรูเรื่องสัตว์ใต้ท้องทะเลแล้ว ยังได้ความรู้เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน เช่นปลาตีน เพียงหินเกาะอยู่บนโขดหิน และความรู้เรื่องหญ้าทะเล หินทราย แนวปะการัง ต่อจากนั้นยังมีโตปลาขนาดใหญ่ที่จัดแสดงเป็นอุโมงค์ที่มีความจุน้ำถึง 4700 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นตู้ปลาที่มีความจุน้ำใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในตู้ปลามีปลาหลากหลายชนิด เช่น ปลาฉลาม ปลาหมอทะ ปลาฉนาก เป็นต้นซึ่งเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่หาดูยาก ซึ่งเป็นที่ดึงดูดน่าสนใจกับผู้ที่มารับชม และศูนย์การเรียนรู้ใต้ทะเลแห่งนี้ ยังมีการจัดแสดงการให้อาหารปลาภายในตู้ปลา โดยมีการให้นักดำน้ำดำน้ำไปป้อนอาหารปลาถึงปาก เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากเลยที่เดียว
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลไม่ใช่เพียงแค่จัดแสดงพันธุ์ปลาต่างๆ ยังให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเล เพื่อสร้างจิตใต้สำนึกการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ที่มารับชม สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลจึงเป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาความรู้ให้กับตนเอง


 หอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา












หอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออก ที่มหาวิทยาลัยบูรพาภายนอกมีโครงสร้างที่แปลกตาน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในมีการจัดแสดงภาพเขียน หุ่นจำลอง ภาพจำลองต่างๆพร้อมจัดแสดงคู่กับสื่อเสียงเพื่อให้เข้าใจง่าย น่าสนใจ มีการแบ่งการจัดแสดงเป็นส่วนๆ มีการให้ความรู้จากวิทยากรทำให้การรับชมสนุกเข้าใจง่าย สามารถให้เราเรียนรู้ได้ด้วยตนเองตามความสนใจ มีการจำลองวัฒนธรรมสมัยก่อนด้วยสิ่งก่อสร้างจำลองที่สามารถจับต้องได้ และใช้สื่อ3มิติที่มีเสียงประกอบ   นอกจากมีการจัดแสดงศิลปะต่างๆแล้ว ยังมีกิจกรรมการแสดงของศิลปินการแสดงของนักศึกษาเพื่อให้ความรู้อยู่ชั้น2ของหอศิลปะ  หอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกแห่งนี้เป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้ที่จะสนใจศึกษาหาความรู้ได้เป็นอย่างดี


วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทรัพยาการเรียนรู้(พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย และ ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทบุคคล)



พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติกับแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้ 31

แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่เป็นอาคารสถานที่
1. ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่
2. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี  จังหวัดพิษนุโลก
3. สวนสัตว์เชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่
4. ศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ   จังหวัดเชียงใหม่
5. ศูนย์เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติตำบลไทรย้อย   เครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียง       จังหวัดแพร่
6. ห้องสมุดประชาชนจังหวัดมุกดาหาร  จังหวัดมุกดาหาร
7. พระธาตุเรืองรอง  จังหวัดศรีสะเกษ
8. ห้องสมุดประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี  จังหวัดอุบลราชธานี
9. สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  จังหวัดขอนแก่น
10. สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
11. สวนสัตว์นครราชสีมา  จังหวัดนครราชสีมา
12. ห้องสมุดประชาชนจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
13. ห้องสมุดประชาชน เฉลิมราชกุมารี” อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
14. พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร
15. พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม
16. องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)  จังหวัดปทุมธานี
17. เมืองโบราณ  จังหวัดสมุทรปราการ
18. สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี
19. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลปะ กรุงเทพมหานคร
20. หอศิลปะมหาวิทยาลัยกรุงเทพ  กรุงเทพมหานคร
21. หอศิลปวิทยนิทรรศน์  กรุงเทพมหานคร
22. สวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพมหานคร
23. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว  จังหวัดชลบุรี
24. ศูนย์กีฬาแห่งชาติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร
25. หอสมุด มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ จังหวัดนครนายก
26. ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ        จังวัดชลบุรี
27. ห้องสมุดประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
28. ห้องสมุดประชาชน เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดภูเก็ต
29. สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต สถาบันวิขัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล  ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน   จังหวัดภูเก็ต
30.  สวนสัตว์สงขลา จังหวัดสงขลา

แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ
31. สวนพฤกศาสตร์ภาคใต้  (ทุ่งค่าย)  จังหวัดตรัง



พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม
1. องค์ความรู้ของแหล่งการเรียนรู้
   เป็น พิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดง หุ่นขี้ผึ้ง ที่หล่อจาก ไฟเบอร์กลาส แห่งแรกของประเทศไทย
 เกิดจากแรงดลใจของ ผู้สร้างสรรค์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งนำโดย อ.ดวงแก้ว พิทยากรศิลป์ มีวัตถุประสงค์ 
ในอันที่จะส่งเสริม เผยแพร่ อนุรักษ์ไว้ซึ่ง ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของไทย อันจะเป็นประโยชน์
 ในการศึกษาค้นคว้าของเยาวชนสืบไป
   การจัดแสดงจะจัดหุ่นไว้เป็นชุด ๆ อาทิเช่น ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี 
ชุดพระอริยสงฆ์ ชุดสมเด็จพระปิยมหาราชกับการเลิกทาส ฯลฯ หุ่นแต่ละรูปนั้นจะมีลักษณะ
เหมือนคนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผิว ดวงตา แขน เส้นผม

2. กลุ่มเป้าหมายหลัก / กลุ่มผู้เรียนหลัก 
  บุคคลทั่วไป 

3.  วิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้สำหรับผู้เรียน/กลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ 
     เป็นรูปแบบการจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้ง ชมตามอัธยาศัย

4. รูปแบบ / วิธีการ / เทคนิคการนำเสนอ 
   พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยนี้เป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่าง จัดเป็นห้องแสดงถาวรจำนวน
ห้องประกอบด้วยหุ่นชุดต่างๆ ได้แก่ ชุดพระอริยสงฆ์ ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี
และชุดมุมหนึ่งของชีวิตเป็นการ แสดงชุดหมากรุกไทย ชุดครอบครัวไทย ชุดเลิกทาส เป็นต้น
 ชั้นบน จัดเป็นห้องแสดงนิทรรศการชั่วคราวชุดต่างๆหมุนเวียนตามความเหมาะสม ปัจจุบันจัดแสดง
เรื่องชุดครูเพลงไทย ชุดบุคคลสำคัญของโลก ชุดวรรณคดีไทย พระอภัยมณีของสุนทรภู่  
ชุดการละเล่นของเด็กไทย ชุดประวัติศาสตร์ไทย

5.  มีวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และกลุ่มผู้เรียนอย่างไร  

กลุ่มเป้าหมายคือบุคคลทั่วไป เพราะ สามารถเข้าชมต้องแต่เด็กจนถึงวัยชรา
เพราะเป็นศิลปะที่ดึงดูดความสนใจ เข้าใจง่าย และยังให้ความรู้ 

6. สามารถเชื่อมโยงกับการศึกษา ในระบบ นอกระบบ ตามอัธยาศัย ได้หรือไม่อย่างไร  
   เชื่อมโยงกับการศึกษาตามอัธยาศัย โดยการเปิดให้เยี่ยมชมได้ต่อเนื่อง
 ตั้งแต่เด็กถึงวัยชราเพราะเป็นศิลปะที่เข้าใจง่ายน่าสนใจ
  
ข้อมูลจาก : http://www.paiduaykan.com/76_province
/central/nakhonpathom/thaihumanimagery.html




แหล่งการเรียนรู้ประเภทบุคคล
 1. นายสามารถ สุทะ 

                                                    ตอนที่ 1
                                                   

                                                    ตอนที่ 2


                                                    ตอนที่ 3


                                                    ตอนที่ 4


องค์ความรู้ที่ได้
นายสามารถ สุทะ ครูห้องเรียนเรือนแพ ห้องเรียนสาขาของโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร อ.ลี้ จ.ลำพูน 
สอนทุกวิชาของทุกระดับชั้นตามหลักสูตรการเรียนการสอน แต่จะเน้นการสอนทักษะชีวิตเป็นสำคัญ
 เพราะเด็กกลุ่มนี้อยู่ในถิ่นทุรกันดาร บางทีการจะเข้าสังคมหรือเรียนรู้สังคมภายนอกจะมีโอกาส
น้อยกว่าคนอื่น ขณะเดียวกัน ยังสอนเรื่องการสร้างอาชีพให้กับเด็กๆในถิ่นทุรกันดาร 
ซึ่งห้องเรียนเรือนแพนั้นเป็นที่เรียนแบบกินนอน เปิดเรียนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ตนจะสอนหนังสือ
และคอยดูแลเด็กตลอด 24 ชั่วโมง ตนเป็นครูเพียงคนเดียวของห้องเรียนเรือนแพ
 ดังนั้น หน้าที่ของตนจึงเรียกได้ว่าเป็นตั้งแต่ครู ไปจนถึงภารโรง  
รางวัลที่ได้รับ
ได้รับการคัดเลือกยกย่องให้เป็นครูสอนดี ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) 
จุดเด่น
ครูผู้อุทิศตนอบรมสั่งสอนศิษย์ให้มีความรู้ความสามารถ นอกจากจะทำหน้าที่เป็น ครู” 
สอนหนังสือ และ พ่อครัวทำกับข้าวให้กับเด็กๆ เป็น ภารโรงดูแลความสะอาดเรียบร้อย
ในตอนกลางวันแล้ว ในตอนกลางคืน ครูสามารถก็ยังทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ 
คอยเล่านิทานสอดแทรกข้อคิดคติเตือนใจให้เด็กฟังก่อนนอนทุกวันเป็นที่พึ่งพาสำหรับเด็ก
 เป็นที่พึ่งพาของชุมชน

ข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000125924
                    http://www.youtube.com/watch?v=2qUy5qSZZMo




2. เชาวลิต สาดสมัย








องค์ความรู้ที่ได้
นายเชาวลิต  สาดสมัย  หรือ"ครูเชาว์"เป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม หรือเรียกครูกลุ่มนี้ว่า"ครูกทม."
สังกัดหน่วยงานสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานครปฏิบัติงานศูนย์สร้างโอกาสเด็กพระราม ๘
 บทบาทภารกิจการเป็นครูข้างถนน การให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือด้านทุนการศึกษา 
การหาทุนประกอบอาชีพให้กับเด็กที่ต้องการมีอาชีพ จัดกิจกรรมด้านกีฬา สอนการบ้านให้กับเด็ก
ในชุมชนใกล้เคียงอีกด้วย ภายในศูนย์ได้มีกิจกรรมโครงการรักการอ่าน (ศูนย์พระราม ๘)
ร่วมงานกับนิสิตนักศึกษา (วันอาทิตย์) ในลักษณะอาสาสมัคร คุ้มครองเด็กในชุมชน

รางวัลที่ได้รับ
ประกาศเกียรติคุณ เชิดชู "ครูข้างถนนดีเด่น"


จุดเด่น
คอยช่วยเหลือเด็กๆที่ขาดโอกาส ไม่ได้รับการศึกษา เด็กเร่ร่อน เด็กกลุ่มเสี่ยง 
ฯลฯให้ได้รับการช่วยเหลือและพัฒนาโดยเร็ว 

ข้อมูลจาก : http://tvshow.tlcthai.com/%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%84%
E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%85%E0%B8%99-3-%E0%B8%9E-%E0%B8%A2-55/

http://www.youtube.com/watch?v=TsWe4icLrAo&playnext=1&list=PLRR0USy3-_c6BeNitx4xWSJDggkzRPNLo&feature=results_main



วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

น้ำตกคลองลาน





อุทยานแห่งชาติคลองลาน ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอคลองลานและอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ครอบคลุมพื้นที่คลองลานอันสมบูรณ์แหล่งสุดท้ายของจังหวัดกำแพงเพชร ประกอบด้วยภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ต้นกำเนิดของน้ำหลายสาย เช่น คลองขลุง คลองสวนหมาก ซึ่งไหลรวมกันลงสู่แม่น้ำปิงและเป็นต้นน้ำตกคลองลานไหลลงสู่คลองขลุง เนื้อที่ประมาณ 187,500 ไร่ หรือ 300 ตารางกิโลเมตร
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ไหลลงมาจากหน้าผาสูง 100 เมตร กล้าง 40 เมตร และด้านล่างของน้ำตกเป็นแหล่งน้ำที่ลงเล่นน้ำได้ อยู่ห่างจากตลาดคลองลาน 4 กิโลเมตร

ลักษณะภูมิประเทศ 
สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ด้านทิศตะวันออกเป็นที่ราบ ดินร่วนปนทราย ภูเขาแต่ละลูกเชื่อมโยงติดต่อกับขุนคลองลานซึ่งเป็นจุดสูงสุดในบริเวณนี้ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,439 เมตร สภาพป่าสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น คลองขลุง คลองสวนหมาก ไหลรวมกันลงสู่แม่น้ำปิง
ลักษณะภูมิอากาศ 
สภาพภูมิอากาศในเขตอุทยานแห่งชาติ ในฤดูร้อนค่อนข้างร้อน ในฤดูหนาวค่อนข้างหนาวอากาศเย็นสบาย ในฤดูฝนมีฝนตกชุก อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน 38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดในเดือนธันวาคม 17 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,300 มิลลิเมตรต่อปี
พืชพรรณและสัตว์ป่า 
ป่าคลองลานยังมีสภาพสมบูรณ์เป็นแหล่งสุดท้ายในด้านทิศใต้ของภาคเหนือ ประกอบด้วยชนิดป่าต่างๆ คือ ป่าดิบแล้ง ซึ่งพบกระจายอยู่ทั่วไปที่ระดับความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 500 เมตรขึ้นไป เช่น ขุนคลองลาน ขุนคลองสวนมาก ขุนคลองขลุง ขุนน้ำเย็น ชนิดไม้ที่สำคัญได้แก่ ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน สมพง ยมหอม พะยอม สมอพิเภก ฯลฯ สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในป่าประเภทนี้ได้แก่ ชะนีมือขาว ช้างป่า หนูหริ่งไม้หางพู่ ปาดลายพื้นเมืองเหนือ กบห้วยขาปุ่ม เต่าปูลู กิ้งก่าบินคอแดง ฯลฯ ป่าดิบชื้น จะพบอยู่ตามริมห้วยที่มีความชื้นสูง ป่าดิบเขา จะพบเป็นหย่อมๆ ป่าเบญจพรรณ สภาพป่าส่วนใหญ่จะเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าดงดิบ ชนิดไม้ที่สำคัญ ได้แก่ สัก ประดู่ ตะแบก มะค่าโมง และไผ่ชนิดต่างๆ ฯลฯ สัตว์ป่าที่พบในถิ่นที่อยู่อาศัยประเภทนี้ ได้แก่ กระทิง วัวแดง กวางป่า เก้ง ตะกวด ฯลฯ และ ป่าเต็งรัง พบในระดับความสูงประมาณ 400-600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ชนิดไม้ที่สำคัญ ได้แก่ เต็ง รัง ยอป่า สมอพิเภก รกฟ้า และสมพง ฯลฯ สัตว์ป่าที่พบในป่าประเภทนี้ได้แก่ เขียดหลังปุ่มที่ราบ เขียดอ่อง อึ่งปากขวด เก้ง เป็นต้น
ในบริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าต่างๆ แต่ปัจจุบันทางราชการได้อพยพชาวเขาเหล่านี้มาอยู่พื้นที่ราบที่ทางราชการจัดสรรให้ สภาพพื้นที่จึงถูกปล่อยให้รกร้างและกลายสภาพเป็นป่ารุ่นสอง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็กจำพวกกระแตธรรมดา ค้างคาวขอบหูขาว กระรอก หนูฟันขาว และหนูขนเสี้ยน ส่วนในบริเวณที่เป็นถ้ำ หลืบหิน และหน้าผา เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเฉพาะชนิด เช่น เลียงผา ค้างคาวปีกถุงเคราแดง ค้างคาวมงกุฎเล็ก ค้างคาวแวมไพร์แปลงใหญ่ และค้างคาวหน้ายักษ์ทศกรรณ์ เป็นต้น พื้นที่บริเวณริมลำห้วย และลำคลองที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งที่หลบซ่อนหรือถิ่นอาศัยหากินของสัตว์หลายประเภท ได้แก่ กบทูด อึ่งกรายลายเลอะ ตะพาบธรรมดา ปลาสลาด ปลาเวียน และปลาติดดิน เป็นต้น












อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด จ.นคสวรรค์




อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด
อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทรงเรือกระแชงแห่งเดียวในประเทศไทย อาคารมีลักษณะเป็นรูปเรือกระแชง หรือเรือเอี้ยมจุ๊น ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยาในอดีต ขนาดกว้าง 37 เมตร ยาว 49เมตร  ภายในอาคารตื่นตากับอุโมงค์ ยาว 24 เมตร ชมพันธุ์ปลาน้ำจืด กว่า 100 ชนิด พร้อมพันธุ์ปลาน้ำเค็มอีกหลากหลายพันธุ์ แสดงปลาน้ำจืดหลากหลายพันธุ์ อาทิ ปลากระเบนราหูน้ำจืด ปลาบึก ปลาสะตือ แรดดำ สวายเผือกตาแดง ตะเพียนขาว ตะเพียนทอง ซิวอ้าว และปลาม้า  นอกจากนี้ยังมีตู้แสดงพันธุ์ปลารอบ ๆ อุโมงค์กว่า 30 ตู้ ประกอบด้วยปลาหายากและปลาสวยงามนานาชนิด เช่น ปลาตามิน ปลาหมอช้างเหยียบ ปลาเสือพ่นน้ำ ปลากระโห้ไทย ปลาตะเพียนขาว ตะเพียนทองทรงเครื่อง และปลากาแดง  นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับฉลามกบและเม่นทะเลที่บ่อปลา Touch Pool นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงตู้ปลาน้ำเค็มในส่วนห้องโถงด้านหน้าอุโมงค์อีกด้วย  สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการ 
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 -18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.30-18.00 น.






วัดท่าซุง




        
วัดท่าซุงนี่ตั้งมาก่อนสร้างกรุงศรีอยธยา 30 ปี พ.ศ.1863 ในยุคต้นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อใหญ่องค์แรก ที่เป็นผู้สร้างวัด ชื่อปานเหมือนกับหลวงพ่อปานวัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รูปร่างหน้าตาใหญ่โต ท่านธุดงค์มาพบที่นี่เข้าแล้ว ก็เลยสร้าง วัดตรงนี้ ปลูกกุฏิหลังคามุงแฝกขึ้นมา 9 หลัง ในสมัยก่อนโน้นลำคลองนี้เป็นคลองเล็ก ลำคลองนี้มันโตสมัยที่มีเรือเมล์ เรือเขียว เรือแดงวิ่ง มีคลื่นตลิ่งมันก็พัง สมัยก่อนลำคลองเล็กใช้น้ำในคลองไไม่ได้ ต้องใช้น้ำในห้วยยเล็ก ๆ หลังวัดมีโบสถ์ขนาดเล็ก ภายในมีจิตรกรรม ฝา ผนังฝีมือช่างพื้นบ้าน เข้าใจว่าเขียนในสมัยหลังการสร้างวัด เป็นเรื่องพุทธประวัติ บางภาพต่อเติมจนผิดส่วน สมบัติอีกชิ้นหนึ่งของวัดคือ ธรรมาสน์ที่หลวงพ่อใหญ่สร้าง ที่วิหารมีพระปูนปั้นฝีมือพองามและมีลายไม้จำหลักขอบหน้าบันเหลืออยู่ 2 - 3 แห่ง ด้านตรงข้ามกับวัด เป็นปูชนียสถานแห่งใหม่ มีบริเวณกว้างขวางมาก พระราชมหาวีระ ถาวาโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พระเถระที่มีชื่อเสียงได้สร้างอาคารต่าง ๆ มากมาย เช่น พระอุโบสถใหม่ ภายในประดับและตกแต่งอย่างวิจิตร บานหน้าต่างและประตูด้านในเขียนภาพเทวดาโดยจิตรกรฝีมือดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาตัดลูกนิมิตพระอุโบสถแห่งนี้ บริเวณโดยรอบสร้างกำแพงแก้วและมีรูปหล่อหลวง พ่อปานและหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า อยู่มุมกำแพงด้านหน้า มณฑป และ พระวิหารแก้ว ที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง และ
ศพของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อย

               วัดจันทาราม ตั้งชื่อตามอดีตเจ้าอาวาสชื่อจันท์ (ในสมัยพระนารายณ์มหาราช นายทหารชื่อจันท์กลับจากศึกเชียงใหม่ มาตาม
หาภรรยาไม่พบเลยมาบวชที่วัด ต่อมาเป็นสมภาร เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็นวันจันทารามตามชื่อท่านสมภาร) หรืออีกชื่อหนึ่งที่ บุคคลทั่วไปนิยม เรียกว่าวัดท่าซุง เพราะในอดีตจังหวัดอุทัยธานี มีป่าไม้มาก จึงมีการขนส่งท่อนซุงมาลงท่าน้ำซึ่งมีแม่น้ำสะแกกรัง ไหลผ่านบริเวณวัดท่าซุง เพื่อผูกเป็นแพล่องไปตามแม่น้ำ ในปี พ.ศ. 2332 หลวงพ่อใหญ่ (องค์ที่สอง) ท่านได้ธุดงค์มาปักกลดชาวบ้าน ท่าซุงมีความเลื่อมใสศรัทธา มาก ได้นิมนต์ท่านอยู่ประจำที่วัดท่าซุงนี้ ท่านก็รับนิมนต์เป็นเจ้าอาวาส ที่วัดนี้มีท่านเพียงองค์เดียว ในตอนแรก สร้างเสนนาสนะเจริญรุ่งเรือง ในสมัยของท่าน และหลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน ท่านได้บอกอีกว่า หลวงพ่อใหญ่ท่านบรรลุพระอรหันต์ที่วัดนี้อีกด้วย กล่าวคือ เมื่อมีชีวิตอยู่ท่านเป็นอนาคามี ก่อนจะมรณภาพท่านก็เป็นพระอรหันต์

               หลวงพ่อเส็ง (หลวงพ่อขนมจีน) ท่านเป็นผู้ช่วยหลวงพ่อใหญ่บูรณะวัดในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นเจ้าอาวาสต่อจาก
หลวงพ่อใหญ่ ท่านเป็นพระอรหันต์รูปที่ 2 ต่อจากหลวงพ่อใหญ่ วัดเจริญต่อมาจนถึงสมัยของหลวงพ่อเล่งและหลวงพ่อไล้ ท่านเป็นพี่น้องกัน ท่านเป็นพระทรงฌานทั้งสองรูป เมื่อจะมรณภาพทุกขเวทนามาก ท่านก็เห็นทุกข์ของการเกิด เป็นทุกข์เพราะร่างกาย เห็นคุณของคำสอนของ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านก็เป็นพระอรหันต์ก่อนมรณภาพทั้งสองรูป ต่อจากนั้นก็ถึงยุคภิกขุพานิช วัดไม่ได้บูรณะมา 47 ปี จนกระทั่ง ถึงปี พ.ศ. 2511 หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) ได้มาริเริ่มบูรณะวัดอีกครั้ง

               อาคารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกันคือสร้างด้วยโมเสกสีขาวใสดูเหมือนแก้ว และยังมีปราสาททองคำ
ศาลาฝึกสมาธิ อาคารแต่ละหลังจะมีเวลาเปิด-ปิดไม่ตรงกันและปิดช่วงกลางวัน วิหารแก้วจะเปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 9.00-11.45 น .
และ 14.00-16.00 น.
 
ลักษณะวัดท่าซุง
 
               เป็นวัดที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก อาทิเช่น ในวิหารแก้ว 100 เมตร จะตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วใสวาววับ ภายใน
วิหารมีโลงบรรจุองค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นที่ศรัทธานับถือของประชาชนทั่วไป ถัดไปอีกด้านมีปราสาททองคำ ตกแต่งด้วยทองคำตระกาล
ตา สร้างด้วยฝีมือที่ประณีตงดงาม


ข้อมูลจาก : 
http://www.uthaithani.m-society.go.th/watthasung.html